January 23, 2014
แก้วมังกรเป็น
พืชตระกูลตะบองเพชรชนิดหนึ่ง
ปัจจุบันกลายเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการปลูกในเชิงการค้า
และได้รับความนิยมบริโภคไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น
โดยเฉพาะสุภาพสตรีส่วนใหญ่ใช้บริโภคเพื่อลดน้ำหนัก (ลดความอ้วน)....เมื่อ มีคนใดคนหนึ่งสามารถลดน้ำหนักได้จริงทำให้มีการใช้ผลแก้วมังกรนี้เป็นองค์ ประกอบของการควบคุมน้ำหนักของสุภาพตรีในปัจจุบัน นอกจากนี้คุณสมบัติของแก้วมังกรมีพอสมควร โดยมีสารมิวซิเลจ (Muciage) สารพวกนี้เป็นโพลี่แซคคาไรด์เชิงซ้อน มีลักษณะคล้ายวุ้น หรือเยลลี่ ช่วยดูดน้ำตาลกลูโคส โดยเฉพาะในคนที่เป็นเบาหวาน โดยไม่พึ่งอินซูลิน ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ และคอเรสเตอรอลชนิดความหนาแน่นในเลือดต่ำ เพิ่มธาตุเหล็กอีกด้วย
การปลูกแก้วมังกรเพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพไม่ว่าจะปลูกแบบสวนหลังบ้าน หรือเพื่อการค้า จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการจัดการบ้าง การจัดการแก้วมังกรนั้นไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับผู้ที่สนใจ แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ที่คิดจะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตโดนไม่ใส่ใจอะไร เลย สำหรับบทความนี้จะนำเสนอวิธีการตัดแต่งกิ่งแก้วมังกร ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการผลิตแก้วมังกร ที่ให้ผลผลิตแล้ว อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถออกดอกติดผลที่มีคุณภาพดี เนื่องจากมีเกษตรกรหลายรายปลูกแก้วมังกรแล้วมีปัญหาเรื่องการออกดอก หรือออกดอกแล้วไม่ติดผล
ประโยชน์ของการตัดแต่งกิ่งแก้วมังกร คือช่วยเสริมสร้างให้แก้วมังกรมีผลผลิตดีขึ้นถึง 25-30 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านี้แล้วแต่สภาพพื้นที่ปลูก ดังนั้นการตัดแต่งกิ่งจำเป็นต้องทำทุกปี เพื่อให้ผลผลิตแก้วมังกรเกิดขึ้นกับกิ่งที่แตกใหม่ซึ่งยังสาวอยู่กิ่งมีความ สมบูรณ์มากที่สุด นอกจากนี้การพรวนดินหรือการสับรากออกบางส่วนเป็นการตัดแต่งรากไปในตัวด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุลกันระหว่างยอดและรากที่เกิดใหม่ การตัดแต่งรากนั้นจะตัดห่างจากโคนต้นประมาณ 30 เซนติเมตร รายละเอียดจะกล่าวต่อไปในขั้นตอนวิธีการตัดแต่งกิ่งและราก บริเวณที่ตัดแต่งรากจะเป็นบริเวณที่ให้ปุ๋ย (ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี) ได้เป็นอย่างดีเนื่องจากมีรากใหม่เกิดขึ้น
ขั้นตอนการตัดแต่งกิ่งและรากแก้วมังกร
1. หลังจากเก็บผลผลิตหมดแล้ว ให้ตัดแต่งกิ่งทันที โดยเลือกกิ่งที่เสียหายโดยมดทำลายหรือกิ่งที่เกิดซ้อนทับกันมากๆ ออกให้มีช่องว่างและสัดส่วนพอดีไม่มากเกินไปเพราะว่าจะทำให้ค้างรับน้ำหนัก มากเกินความจำเป็น นอกจากนี้ให้ทำการสับรากบริเวณโคนต้นห่างจากโคนต้นประมาณ 30 เซนติเมตร รอบโคนต้นด้วย แล้วใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมีบริเวณที่สับราก
ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์วินัย วิริยะอลงกรณ์ สาขาไม้ผล ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ 50290 โทร. 053-873387-9 ในวันและเวลาราชการ
ที่มา ฐานเรียนรู้และองค์ความรู้ทางการเกษตร สำนักวิจัยมหาวิทยาลัยแม่โจ้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น