เกษตรกรคนขยันสร้างอาชีพเสริมด้วยการปลูกหน่อไม้ไผ่หวานขาย สร้างรายได้อย่างยั่งยืน
ต้นไผ่ในประเทศไทยมีหลายสายพันธุ์ที่ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อคนเราอย่าง อเนกประสงค์ อาทิ ใช้เป็นอาหาร, ใช้เป็นเครื่องจักรสาน, ทำเฟอร์นิเจอร์, สร้างบ้านเรือนฯ ที่สำคัญหน่อไผ่หลายชนิด หลายประเภทที่คนเรานำมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารบริโภค พร้อมกับมีคุณค่าทางอาหารอย่างมากมาย หน่อไม้ไผ่หวานก็เช่นกันนับเป็นพืชเศรษฐกิจของคนไทยอีกชนิดหนึ่ง แต่ทางภาคอีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดอำนาจเจริญแล้วหน่อไม้ไผ่หวานนับว่ายังมีน้อยมาก ถ้าจะพอมีก็ปลูกกันตามหัวไร่ปลายนาเพียงไม่กี่กอ (ต้น) จึงทำให้มีหนุ่มเกษตรกรนักสู้ในการทำมาหากิน เพื่อเลี้ยงครอบครัวเกิดมองเห็นช่องทางในการทำเงินให้กับครอบครัวจนมีฐานะ อย่างมั่นคง และสมควรเป็นต้นแบบของคนสู้งานได้เป็นอย่างดี
นายวินัย ทองใบ หนุ่มนักสู้วัย 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/8 บ้านโนนงาม หมู่ 4 ต.โนนงาม อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ กล่าวกับ “บ้านเมือง” ว่าตนมีอาชีพหลักคือการทำนา บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนก็มีอาชีพทำนา มีวิถีชีวิตหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน หนักเอาเบาสู้ ไม่เคยท้อถอย กว่าจะได้ผลผลิตในการทำนาก็ปาเข้าไป 8 เดือนเศษๆ พอนำข้าวไปขายก็ไม่ได้ราคา เพราะพ่อค้าคนกลางเป็นคนกำหนดราคา หรือไม่ก็ภาครัฐเป็นผู้กำหนดกติกาในการซื้อขาย เงินที่ได้ก็ไม่พอใช้หนี้เงินล้านที่กู้ยืม ตนจึงคิดหาช่องทางที่จะทำให้ครอบครัวมีรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้น
นอกเหนือจากการขายข้าว ในที่สุดก็มาตกลงเอาที่การปลูกหน่อไม้ไผ่หวานขาย เพราะตนเองไปมีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับการปลูกหน่อไม้ไผ่หวานมาจากบ้านปลาอีด อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร มาเมื่อหลายปีก่อน จึงได้มาเตรียมดินเพาะปลูกในพื้นที่ สปก.ของตนเองบนเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่เศษ โดยได้เริ่มลงมือปลูกเมื่อปี พ.ศ.2553 ปลูกหน่อไม้ไผ่หวานจำนวน 1,500 กอ (ต้น) ลงทุนไปสำหรับการปลูกทุกอย่างจำนวนประมาณ 90,000 บาท ปลูกได้ 2 เดือนหน่อไผ่ก็เริ่มออกหน่อ ดูแลอยู่ 6 เดือนก็สามารถตัดจำหน่ายได้ และในขณะนี้ตลาดกำลังต้องการมากถ้าเป็นฤดูแล้งไม่พอขาย แต่ในช่วงฤดูฝนจะมีหน่อไม้ตามธรรมชาติออกมามากราคาก็จะลดลง ซึ่งในวันนี้ก็สามารถทำให้ครอบครัวของตนมีรายได้อย่างมั่นคง มีฐานะทางครอบครัวดีขึ้นมาก การปลูกไม้ไผ่หวานก็มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ปลูกเสร็จก็ดูแลรักษาอย่างง่ายๆ คือเพียงรดน้ำทุกวัน พรวนดิน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมีบ้างเล็กน้อย หน่อไม้ไผ่หวานก็จะแตกหน่อทุกฤดูกาล ทำให้สามารถตัดขายได้ตลอดเวลาทุกวัน
นายวินัย ทองใบ ยังบอกอีกว่า พันธุ์ไม้ไผ่หวานนั้นตนเองได้ไปซื้อมาจากจังหวัดยโสธร โดยซื้อมาต้นละ 30 บาท และในเร็ววันนี้ตนเองพร้อมภรรยาจะได้มีการเพาะต้นกล้าพันธุ์ไม้ไผ่หวาน เพื่อการจำหน่ายอีกทางหนึ่งจะจำหน่ายให้กับผู้สนใจต้นละ 30-35 บาท ซึ่งก็นับว่าเป็นการขยายพันธุ์เองไปในตัวพร้อมกับจำหน่ายต้นกล้าสร้างรายได้ เพิ่มขึ้นมาอีก สำหรับขั้นตอนการปลูกนั้นก็มีการเตรียมดิน ปรับพื้นที่ด้วยการไถพรวนดินธรรมดา ตากดินไว้ประมาณ 7 วัน ต่อจากนั้นก็ทำการยกร่อง ขุดหลุม ทำแปลงปลูกเพื่อระบายน้ำท่วมขังในหน้าฝน ทำหลุมปลูกห่างกัน 3 คูณ 3 เมตร นำปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์ลงไปคลุกเคล้าในหลุมให้ได้ที่มากพอเหมาะ ถ้าปลูกในช่วงเดือนพฤษภาคม ก็จะดีเพราะใกล้ช่วงหน้าฝน ไม่ได้รดน้ำบ่อย ส่วนในช่วงหน้าแล้งจะรดน้ำทุกวันหรือแล้วแต่สภาพความชุ่มชื้นของดิน
ด้านการจำหน่ายถือว่ามีตลาดมากผลผลิตไม่เพียงพอในขณะนี้ในช่วงหน้าแล้ง ราคาหน่อไม้ไผ่หวานจะอยู่ที่ 3 กิโลกรัม/100 บาท ทำให้มีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 200-2,000 บาท ส่วนหน้าฝนจะลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 10-20 บาท ซึ่งถ้ามีหน่อไม้มากก็จะทำเป็นหน่อไม้ดองไว้ขายในราคากิโลกรัมละ 25-30 บาท ตนยอมรับว่าการปลูกหน่อไม้ไผ่หวานขายสามารถทำรายได้เลี้ยงครอบครัวดีที่สุด ในเวลานี้ นายวินัยบอก
ลหน่อไม้ไผ่หวานนับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้คน ขยัน สู้งานอย่าง วินัย ทองใบ นำมาเป็นช่องทางทำกินสร้างฐานะครอบครัวให้มั่นคง กลับกลายเป็นคนมีเงินมีทอง เป็นแบบอย่างให้กับสังคมในการสร้างงาน สร้างอาชีพได้เป็นอย่างดี สำหรับท่านที่สนใจต้นกล้าไผ่หวาน หรือ หน่อไม้ไผ่หวานสามารถติดต่อได้ที่ นายวินัย ทองใบ เลขที่ 88 หมู่ 4 บ้านโนนงาม ต.โนนงาม อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ โทร.08-4958-4266
วิเชียร เกื้อทาน/อำนาจเจริญ
ที่มา หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ฉบับวันที่ 21/06/2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น