วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

แก้วมังกร (4) แก้วมังกรรายได้เสริม-ชีวิตพออยู่พอกิน

ชาวนาบ้านโนนบก ปลูกแก้วมังกรขาย

เป็นรายได้เสริม-ชีวิตพออยู่พอกิน

ต้นแก้วมังกร เป็นพืชตระกูลกระบองเพชร เป็นพืชที่ทนแล้ง ทนต่อโรคและแมลงปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ต้นกำเนิดของไม้พันธุ์นี้จะเกิดและเติบโตเป็นพันธุ์แท้อยู่ที่ประเทศ เวียดนาม มีสารมิวซิเลจ (Mucilage) จำนวนมาก สารพวกนี้ คือ โปลี่แซคคาไรด์เชิงซ้อน ลักษณะคล้ายวุ้นเหลว หรือเยลลี่ ช่วยดูดน้ำ ช่วยคุมน้ำตาลกลูโคสในคนที่เป็นเบาหวานโดยไม่พึ่งอินซูลิน สามารถลดไตรกลีเซอร์ไรด์ และคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นในเลือดต่ำ นอกจากนี้ แก้วมังกรยังเพิ่มธาตุเหล็ก บรรเทาโรคโลหิตจาง ผลแก้วมังกรมีคุณค่าทางอาหาร มีสรรพคุณป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิต ตับ เบาหวาน มะเร็งลำไส้ และต่อมลูกหมาก เสริมสร้างภูมิต้านทานกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อและผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบรับประทานเพื่อลดน้ำหนัก

นายประเทือง สำมาวงศ์ ชาวนาวัย 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 6 บ้านโนนบก ต.บ้านแดง อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นอีกผู้หนึ่งที่หันมาปลูกแก้วมังกรขายเป็นรายได้เสริม หลังจากตระเวนศึกษาวิธีการปลูกแก้วมังกร จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ก็มาแบ่งที่ดินลงทุนปลูกทันที จนบัดนี้ แก้วมังกรออกดอกออกผลจนมีรายได้อย่างงดงาม และเมื่อนำรายได้ไปบวกกับการขายข้าว ขายหมู ขายปลาที่เลี้ยงไว้ ทำให้นายประเทือง มีความเป็นอยู่ชนิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ หนี้สินที่มีอยู่ก็หมดไป เงินรายได้จากน้ำพักน้ำแรงพอมีฝากธนาคารจำนวนไม่น้อย

นายประเทือง สำมาวงศ์ เล่าว่า ตนเองมีที่ดินทำกินสำหรับปลูกข้าวอยู่เกือบ 40 ไร่ ได้แบ่งขุดบ่อเลี้ยงปลาและทำฟาร์มหมู ต่อมาได้มีโอกาสไปพบเห็นสวนแก้วมังกรของญาติและของเพื่อนเกษตรกร และทราบว่าเป็นพืชทนฝนทนแล้ง ทนต่อศัตรูของพืช และขายได้ราคาดี ก็เลยศึกษาถึงวิธีการปลูก จากนั้นจึงแบ่งที่ดินปลูกแก้วมังกร จำนวน 5 ไร่ เป็นแก้วมังกรเปลือกแดง เนื้อขาว หรือพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดงเป็นพันธุ์เบอร์ 100 มาจากบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และ จันทบุรี โดยปลูกมาแล้ว 5 ปี ก็เก็บผลผลิตออกขายตามตลาดในพื้นที่ บางทีมีพ่อค้าจากตัวเมืองมารับซื้อแบบเหมายกสวนก็มี ปีนี้ก็เก็บขายเองเพราะกำไรดี โดยเก็บขายมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และคงขายไปเรื่อยจนถึงช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งปีหนึ่งก็พอมีกำไรหลายหมื่นบาท นับเป็นรายได้เสริมที่งดงามทีเดียว

นายประเทือง ยังได้เล่าถึงวิธีการปลูกและดูแลรักษาว่า วัสดุที่ใช้ปักชำได้แก่ ถุงดำ แกลบดำ ทรายหยาบ ขุยมะพร้าว ส่วนกิ่งพันธุ์ควรเลือกกิ่งที่มีอายุมากกว่า 1 ปี มีสีใบเข้ม สะอาด ไม่มีตำหนิ อ้วนและสมบูรณ์แข็งแรง ในช่วงปักชำรดน้ำให้วัสดุชื้นอยู่เสมอระวังอย่าให้มีมดคันไฟ หากมีต้องรีบกำจัด เมื่อต้นพันธุ์อายุได้ 1-2 เดือน ควรใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 เมื่อรากและยอดแก่แข็งแรงสามารถย้ายปลูกได้ เวลาปลูกก็กำหนดระยะห่างระหว่างต้น 3.5 เมตร และระหว่างแถว 3 เมตร ขุดหลุมลึกประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อปักต้นเสา แล้วขุดหลุมข้างๆ เสาทั้งสี่ด้านให้ห่างจากเสา 30 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ที่ก้นหลุม 1 ช้อนแกง จากนั้นก็ปลูกต้นแก้วมังกรใส่ตรงกลางหลุม โดยหันด้านแบนของต้นเข้าหาเสา และให้รากอยู่ตำแหน่งผิวดินไม่เกิน 5 เซนติเมตร จัดลำต้นให้เอนเข้าหาเสาเล็กน้อย เอาดินกลบ ใช้เชือกฟางมาผูกลำต้นชิดติดกับเสา หมั่นรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ถ้าอากาศร้อนจัดควรทำที่บังแดดก็จะดี นำจุลินทรีย์อีเอ็มมาผสมกากน้ำตาลและน้ำ รดเป็นระยะๆ เมื่อต้นแก้วมังกรแตกกิ่งออกมาเป็นจำนวนมากต้องตัดทิ้งให้หมด และปล่อยให้ต้นเจริญเติบโตจนถึงปลายหลักและขึ้นค้าง จัดกิ่งให้กระจายไปทั่วค้างหรือห้างหรือร้านที่ทำไว้ให้แก้วมังกรเลื้อย และมัดกิ่งให้อยู่กับร้าน ต้นแก้วมังกรจะเริ่มออกดอกภายในระยะเวลา 8 เดือน ให้เริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 และเมื่อติดผลอ่อนกลีบดอกที่อยู่ปลายผลแก้วมังกรจะแห้งแต่ไม่ร่วง ให้ดึงกลีบดอกที่แห้งออกเพื่อให้ผลโตเร็ว ภายหลังจากที่ต้นแก้วมังกรออกดอกแล้ว 45 วัน ผลจะสุก สามารถเก็บขายได้ ซึ่งต้นแก้วมังกรจะออกดอกและติดผลไปเรื่อยๆ ในแต่ละปีจะเริ่มเก็บขายได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเอาใจใส่ก็คือเรื่องของศัตรูของผลแก้วมังกร ได้แก่ มดคันไฟ เพลี้ยอ่อนที่มักจะมาตอมยอด ด้วงค่อมทองมาแทะกินกลีบผล หนอนจะเจาะเปลือกและเนื้อ เพลี้ยตลอดจนนกและหนูที่คอยมาเจาะกินผล ฯลฯ รวมทั้งต้องระวัง สัตว์เลี้ยง เป็ด ไก่ มาขุดคุ้ยโคนต้น ซึ่งจะทำให้การออกดอกออกผลไม่สมบูรณ์เต็มที่

สุดท้ายนายประเทือง สำมาวงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า อยากแนะนำให้เพื่อนๆ เกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวอย่างเดียว หันมาทดลองทำการเกษตรแบบผสมผสานอย่างตนดูบ้าง ช่วงแรกอาจจะลำบากสักหน่อย เพราะการทำงานและความรับผิดชอบจะเพิ่มมากขึ้นเท่าตัว แต่ขอบอกว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงแน่นอน อย่างตนเองตอนแรกก็ท้อ พอเห็นผลผลิตและกำไรที่ได้ ก็ทำให้มีกำลังใจสู้ขึ้นมา แต่ก่อนตนทำนาอย่างเดียวก็ลำบากพอสมควร รายได้ไม่พอกับรายจ่าย แต่ตอนนี้ตนมีบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงหมูนับร้อยตัว และล่าสุดได้ทดลองปลูกแก้วมังกรขาย เพราะลงทุนน้อย ดูแลง่าย ขายสะดวก ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะแก้วมังกรให้ผลผลิตดี มีรายได้จากการขายอย่างงดงาม ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็พออยู่ พอกิน และมีเหลือเก็บบ้างพอสมควร อย่าลืมว่า ไม่มีความยากจน ในหมู่คนขยัน

กิตติภณ เรืองแสน/อุบลราชธานี

ที่มา หนังสือพิมพ์บ้านเมือง ฉบับวันที่  12 กค. 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น