“ทำสวนแค่ 1 ไร่ มีรายได้เดือนละกว่า 7 หมื่นบาท!” ปฐมบทของศูนย์การเรียนรู้ฯ จากหนี้สินกว่า 4 ล้านบาท ปลดหนี้ภายใน 4 ปี
“ทำสวนแค่ 1 ไร่ มีรายได้เดือนละกว่า 7 หมื่นบาท!” ปฐมบทของศูนย์การเรียนรู้ฯ จากหนี้สินกว่า 4 ล้านบาท ปลดหนี้ภายใน 4 ปี
ข้าพเจ้าเคยเล่นการเมืองท้องถิ่น(อบต.) อยู่ 2 สมัย ตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาดข่า ใน 2 สมัยนั้นหมายถึง 8 ปี (พ.ศ.2540-2548) ข้าพเจ้าไม่มีเวลาไปประกอบอาชีพเลย เงินเก่าที่สะสมไว้ก็หมด และต้องกู้ยืมจากเพื่อนบ้าน วันแล้ววันเล่า จนทำให้ ข้าพเจ้านำครอบครัวเข้าสู่หนี้สินถึงจำนวนกว่า 4 ล้านบาท
จากนั้นตัดสินใจลงเวทีการเมือง มามองเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ตามปรัชญา ของพระองค์ท่าน ในหลวงของเรา ข้าพเจ้ามีพื้นฐานอยู่คือ มีที่ทำกินอยู่ 65 ไร่ เป็นมรดกจากคุณพ่อที่แบ่งเอาไว้ให้ เมื่อปี พ.ศ.2534 และหลังจากนั้นก็พยายามทำสวนอยู่บ้างแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะไม่มีเวลาทำ ดินก็แห้งแล้ง และแหล่งน้ำก็ไม่พอ
มีอยู่วันหนึ่ง ข้าพเจ้าได้ปรึกษากับภรรยาของข้าพเจ้า และถามเธอว่า ตื่นเช้ามาแต่ละวันเธอจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นลูกสาว 2 คนกำลังเรียนอยู่ คนโตอยู่มหาวิทยาลัย อีกคนเล็กอยู่มัธยมใกล้บ้าน ภรรยาข้าพเจ้าตอบว่า จะต้องใช้ประมาณวันละ 1,000 บาท เพราะรวมถึงผ่อนดอกเบี้ยเงินกู้เขาด้วย ข้าพเจ้าได้คิดหนักอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ แต่ข้าพเจ้าวางกรอบให้ตนเองคิด หาเงินอยู่เฉพาะในที่ดินของตนเองเท่านั้น จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ให้เวลามากๆ กับลูกๆ ไม่คิดที่จะไปหาเงินจากต่างถิ่น
ในที่สุดข้าพเจ้าก็คิดออก โดยเริ่มต้นปลูกพริก 2 งาน ทำฟาร์มเห็ด 4 ฟาร์ม ในเนื้อที่ 1ไร่ เริ่มจากการไถพรวนดินยกร่อง กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวตามแนวที่ดินได้ประมาณ 20 แปลง ปลูกพริกสายพันธุ์พริกส้ม ลักษณะเมล็ดดิบสีทอง เมื่อสุดสีออกส้ม รสเผ็ด จุดเด่นคือกลิ่นหอม ดูแลรักษาง่าย ที่ดินอีกส่วนหนึ่งข้าพเจ้าได้ทำฟาร์มเห็ด เพื่อเปิดดอกเอง จำนวน 4 ฟาร์ม กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร จะได้ก้อนเห็ดฟาร์มละ 5,000 ก้อน รวมจำนวน 20,000 ก้อน เป็นเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดฮังการี่
เมื่อพริกอายุได้ประมาณ 3 เดือนก็เริ่มเก็บผลผลิตได้ ข้าพเจ้าตื่นแต่เช้า กับภรรยาคู่ชีวิตของข้าพเจ้า ใช้เวลาเก็บพริก ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 3 โมงเช้า (06.00น.-09.00น.) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ได้พริกคนละ 10 กก. รวมเป็น 20 กก. ขายส่งกก.ละ 50 บาท เพราะเราทำเป็นพริกอินทรีย์ ราคาไม่มีตกกว่านั้น รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ส่วนเห็ดนั้น ได้เริ่มเก็บผลผลิตตั้งแต่ เอาเข้าฟาร์มได้ 1 เดือน ฟาร์มเห็ด 4 ฟาร์ม แบ่งเป็นฮังการี 2 ฟาร์ม นางฟ้าภูฐาน 2 ฟาร์ม เก็บดอกเห็ดได้เฉลี่ยวันละ 40 กก. ราคากก.ละ 30 บาท รวมเป็นเงิน 1,200 บาท
ดังนั้นในที่ดิน 1 ไร่ ของข้าพเจ้า แต่ละวันได้จากพริก 1,000 บาท ได้จากเห็ด 1,200 บาท รวมเป็นเงินวันละ 2,200 บาท หรือเดือนละ 66,000 บาท ซึ่งไม่ได้รวมถึง ช่วงไหนราคาพริกขึ้น หรือราคาเห็ดเพิ่มขึ้น ฉะนั้นข้าพเจ้าก็เลยเห็นทางออก และสามารถที่จะส่งลูกเรียนจบ ปริญญาตรี ได้ทั้ง 2 คน โดยไม่ได้ยืมจากกองทุนการศึกษาของรัฐบาลเลย ทั้งยังสามารถปลดหนี้สิ้นทั้งหมดได้ภายในเวลา 4 ปี
สุดท้ายนี้อยากจะให้กำลังใจ สำหรับพี่น้องที่เข้ามาอ่าน ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรานั้น มีทางออกอยู่หลายทาง และอีกทางออกหนึ่ง ภายใต้ปรัชญาแนวคิดเศรษฐ์กิจพอเพียง ของพระองค์ท่าน ในหลวงของพวกเรา สามารถเป็นหนึ่งทองออกที่ดีที่สุดและมั่นคงด้วย
ถ้าหากเรื่องนี้หรือเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ มีท่านทั้งหลายได้เข้ามาอ่าน ข้าพเจ้าขออุทิศ บุญกุศลส่วนนี้ให้กับพระองค์ท่าน ในหลวงของเรา ให้พระองค์ท่าน มีพลานามัยที่สมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไป และขออุทิศให้กับ คุณพ่อเพลิน อินทรชัยศรี(เสียชีวิต) และคุณแม่ชม อินทรชัยศรี(ยังมีชีวิตอยู่) ผู้ซึ้งเป็นคุณพ่อและคุณแม่ของข้าพเจ้า ที่ได้มอบที่ดินมรดกตรงนี้ให้กับข้าพเจ้าและครอบครัว
ถ้าหากท่านสนใจในเรื่องราวมากกว่านี้ กรุณาติดตามบทความต่อไปได้ ในแฟนเพจแห่งนี้ หรือสนใจเรียนรู้ในสถานที่จริง ก็ไปเที่ยวสวนของข้าพเจ้าได้ ตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนเอาไว้
ผู้เขียน : เฉลิมชัย อินทรชัยศรี
facebook : http://www.facebook.com/LoeiCSL
“ทำสวนแค่ 1 ไร่ มีรายได้เดือนละกว่า 7 หมื่นบาท!” ปฐมบทของศูนย์การเรียนรู้ฯ จากหนี้สินกว่า 4 ล้านบาท ปลดหนี้ภายใน 4 ปี
แหล่งที่มา : kasetonline.com
ดีครับ
ตอบลบ